การออมเงิน คือ การเก็บเงินส่วนหนึ่งของรายได้ในปัจจุบัน โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้จ่ายภายในอนาคต เงินออมเป็นปัจจัยที่จะทำให้เป้าหมายของคุณที่ตั้งไว้ในอนาคตบรรลุจุดประสงค์ เช่น บางคนอยากมีบ้านและที่ดินเป็นของตังเอง อยากจะมีการศึกษาสูง อยากมีชีวิตที่สุขสบายในยามปลดเกษียณ หรือหวังที่จะให้ลูกหลานมีหลักฐานมั่นคง เงินออมจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดเป้าหมายที่วางไว้เป็นจริงขึ้นมาได้ นอกจากนี้ เงินออมยังใช้สำหรับแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนทางการเงิน ที่อาจเกิดขึ้นอย่างคาดไม่ถึงของบุคคลได้ด้วย การที่คนเรามี “เป้าหมาย” อย่างใดอย่างหนึ่งในอนาคตที่กำหนดไว้อย่างชัดเจนแน่นอน ก็จะทำให้เกิดความกระตือรือร้นที่จะเก็บออมมากขึ้น เป้าหมายของแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกัน แล้วแต่ความจำเป็น และความต้องการของเขา และยังขึ้นอยู่กับความหวัง และความทะเยอทะยานในชีวิตของเขาด้วย โดยเราจะแนะนำวิธีการออมเงินแบบง่าย ๆ 5 วิธี ดังนี้
1.เก็บก่อนใช้
เมื่อเงินเดือนออกให้ทำการแบ่ง 10% ของเงินเดือนเพื่อเป็นเงินออมทันที โดยห้ามนำเงินส่วนนี้ออกมาใช้เด็ดขาด ส่วนเงินที่เหลือ ก็แบ่งเป็นส่วน ๆ ตามค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องจ่าย
2.เก็บแบงค์ 50 บาท
เมื่อเราได้เงินทอนเป็นแบงก์ 50 บาทมาเมื่อไหร่ ให้เก็บแยกออกจากเงินแบงค์อื่น ๆ ในกระเป๋า แล้วค่อยนำมาหยอดกระปุกหรือรวบรวมไปฝากธนาคาร
3.จดรายรับ-รายจ่าย
บันทึกรายจ่ายแต่ละวันว่าใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง พอครบเดือนนึงก็รวมยอดที่จ่ายไปทั้งหมด เพื่อจะได้จัดสรรค่าใช้จ่ายที่จำเป็นกับไม่จำเป็น
4.หยอดกระปุกออมสิน
ควรแบ่งเป็นหลาย ๆ กระปุกตามวัตถุประสงค์ในการออม เช่น เงินค่าเทอม เงินซื้อรถ เงินซื้อบ้าน เงินจ่ายหนี้ ฯลฯ
5.เก็บเงินตามจำนวนวันในปี
ใน 1 ปีมี 365 วัน คือ วันที่ 1 ก็เก็บ 1 บาท วันที่ 2 ก็เก็บ 2 บาท วันที่ 200 ก็เก็บ 200 บาท ไล่ไปเรื่อย ๆ จนครบ 365 วัน
*อาจทำตาราง 365 วัน วันไหนที่เราเก็บเงินแล้วก็ขีดฆ่าออก
ดังนั้น เป้าหมายในการออมที่แตกต่างกันนี้ จะเป็นสิ่งที่กำหนดให้จำนวนเงินออม และระยะเวลาในการออมแตกต่างกันไป บุคคลจึงควรมีการออมอย่างสม่ำเสมอในชีวิต